แต่งงานทั้งที มีอะไรบ้างนะ
Wedding planner Venue Catering Decorator Organizer Run Queue MC Dresser Make up artist
Photographer Musician Light and Sound
มาค่ะ โพสนี้ยาวหน่อยนะคะ แนะนำว่าที่บ่าวสาวในการเตรียมงานกันค่ะ วันๆ พันกว่าเรื่องอะเนอะ ก็หวังเป็นอย่างยิ่งนะคะ ว่าข้อมูลตรงนี้จะช่วยอะไรได้บ้าง
ลูกศร พิธีกร/นายพิธี พร้อมทีมรันคิวงานแต่งงาน Sornrawan Wedding เป็นพิธีกรที่พอมีชื่อเสียงอยู่บ้างด้วยความเมตตาจากพี่ๆในวงการหลายๆท่าน คอยสอนคอยแนะนำ จนถึงวันนี้ ขอบพระคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านค่า
-
พร้อมอ่านนะคะ ไปค่ะ!!
-
-
1. หาฤกษ์ดูวัน เห็นโพสเยอะเลยว่าฤกษ์ดีวันไหน จะได้เลี่ยง ดูได้จาก ดิถีเรียงหมอน(ดิถีแมลงปอ) เปิดในกูเกิลได้ ลูกศรดูจาก Myhora เป็นฤกษ์ที่เหมาะแก่การแต่งงาน ฤกษ์ยามคือความเชื่อ มีมาแต่โบราณ เป็นศาสตร์การดูจากดวงดาวคำนวนเวลานู่นนี่นั่น (ในแม่หยัวมีซีนอยู่ว่าควรออกรบเมื่อไหร่ไทยจะชนะ) ทีนี้ก็ปรับไปตามยุคสมัยค่ะ ถ้าเราคิดว่าวันนั้นจะจัดการงานได้ยาก แล้วอยากเลี่ยงไปหาวันที่สะดวกกว่า ก็ดูตามความต้องการของครอบครัว ตกลงกับคุณพ่อคุณแม่ให้ดี ส่วนนึงเราเชื่อเรื่องบุญทำกรรมแต่งค่ะ คนจะเป็นคู่กันก็คือทำบุญร่วมกันมา อยู่ด้วยกันแล้วไม่เจริญในธรรม ถึงวันต้องเลิกราอะไรก็ห้ามไม่ได้
ทีนี้ดิถีเรียงหมอนก็จะมีทุกเดือนเหมือนวันพระอยู่แล้ว แต่คนนิยมมาแต่งพฤศจิกา++ยาวไปถึงต้นปี เพราะว่าอากาศดีหมดฝนแน่นอน (แต่วันก่อนฝนก็ตกนะ><) จัดงานกลางแจ้งได้ แขกเดินทางสะดวก (ในอดีตคือต้องหมดฝนก่อน ก็เข้าหน้าเก็บเกี่ยว เมื่อแล้วเสร็จก็จะจัดงานรื่นเริงได้อย่างสบายใจ หรือขายข้าวได้ก็มีเงินทุนจัดงาน ญาติๆ ชาวบ้าน ก็มารวมตัวช่วยงานได้อะไรอย่างนั้น) แล้วปัจจุบันก็มักจะเลือกให้ตรงเสาร์อาทิตย์ เพื่อที่จะได้สะดวกกับแขกและครอบครัวไม่ต้องหยุดต้องลาถ้าตรงกับวันธรรมดา ถ้าเราจะเลือกวันอื่นแล้วขัดกับความเชื่อที่บ้านอันนี้ก็อยู่ที่ตกลงกัน แนะนำว่าตอนหาฤกษ์ให้ขอไว้สัก 3 วันเผื่อเลือกวันที่สะดวกที่สุดค่ะ (ลูกศรไม่ได้รับดูฤกษ์นะคะ ลูกค้าเชคคิวว่างตรงกันเมื่อไหร่ ไปดูแลให้ได้หมด เล่ามายาวแค่อยากให้เข้าใจ เห็นคนชอบบ่นว่าทำไมต้องให้มาแต่วันนี้ ก็เขาดูดาวดูตำราเดียวกันก็วันประมาณนี้แหละค่ะ จะต่างไปบ้างตามตำราไทย-จีน-ฝรั่งก็แล้วแต่บ้านไปค่ะ)
-
2. ประมาณจำนวนแขก และกำหนดงบค่าใช้จ่าย เรียกว่าดูกระเป๋าตังค์เราก่อนค่ะว่าเรามีงบเท่าไหร่ อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องซองช่วยงาน เรื่องอาหารถือเป็นปัจจัยแรกๆที่เราคำนึงถึง คนไทยอ่ะ ข้าวปลาอุดมสมบูรณ์แขกไปใครมาต้องพากินข้าว งานไหนอาหารน้อยไม่อร่อยนี่พูดไม่จบ ก็จะมามีผลถึงราคาค่าอาหาร และสถานที่ เช่นโต๊ะจีน บุฟเฟต์ใดๆ เพราะต้นทุนอาหารคือการเลือกวัตถุดิบที่ดี เราก็ต้องเข้าใจทางครัวด้วย จะมาโต๊ะพันห้ามีเป๋าฮื้อพร้อมกระเพาะปลาแท้คงไม่ได้ อย่างข้าวขาวธรรมดา กับหอมมะลิ แค่กินกับไข่ดาว ยังรสชาติต่างกัน เผื่อกำไรให้ค่าน้ำมัน ค่าพนักงานเขาบ้าง เราก็จะประเมินจากยอดค่าใช้จ่ายใหญ่ๆก่อน เช่น อาหาร นับกันแล้วคิดว่า แขกสัก 200 คน สมมติ ญาติเจ้าสาว 50 ญาติเจ้าบ่าว 50 เพื่อนบ่าวสาว 40 เพื่อนพ่อแม่เพื่อนบ้าน 40 อื่นๆ 20 จัดโต๊ะนั่ง 10 คนก็ยี่สิบโต๊ะ สำรอง 1-2 โต๊ะ (คิดเล่นๆให้ดูเฉยๆนะ บางงานก็เป็นร้อยโต๊ะ ส่วน กทม 50 โต๊ะก็คือเยอะแล้ว) ก็คำนวนย้อนกลับไปว่า งบทั้งหมดที่มีจะลงที่อาหารเท่าไหร่ เผื่อตกแต่ง อุปกรณ์ในพิธี ทีมช่างภาพ คนช่วยงาน แสงเสียง ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว ช่างแต่งหน้า บลาๆ จะได้ค่าโต๊ะเท่าไหร่ แล้วจะจัดที่ไหน ถ้าตั้งโต๊ะที่บ้านก็ไม่ต้องเสียค่าเช่า แต่ถ้าไปในสถานที่อื่นๆ ก็จะเป็นราคาที่สถานที่นั้นๆกำหนดต่อไป ในอดีตจะจัดงานแต่งที นี่รวมตัวกันเป็นสัปดาห์ วันนึงล้มหมู ขูดมะพร้าว เคี่ยวน้ำตาล วันนึงปรุง จัดของเตรียมของ กว่าจะถึงวันงานก็เป็นกิจกรรมสนุกสนาน แต่มันก็เหนื่อยค่ะ กว่าจะถึงวันงานค่าเลี้ยงคนเตรียมของไม่ใช่น้อย เดี๋ยวนี้เราใช้บริการทีมแคทเทอริ่งต่างๆได้ ให้พ่อแม่แต่งตัวสวยๆ รับแขกไปดีกว่า
-
3. สถานที่จัดงาน เราจัดได้ที่ไหนบ้าง (นี่เป็นเนื้อหาการสอนในคลาสเลยนะคะ) บ้าน สถานที่เช่า(หอประชุม ร้านอาหาร) โรงแรม หรือWedding venue (สถานที่รับจัดงานแต่งงานโดยเฉพาะ) แต่ละที่มีข้อดีข้อเสียต่างๆ กันไปค่ะ จัดที่บ้าน แขกมาบ้านเยอะนะ นึกภาพแค่ต้องเก็บบ้านก็จะเป็นลมละค่ะ ที่จอดรถ ห้องน้ำ ที่ตั้งโต๊ะอาหาร การดูแลของมีค่า โอเคมั้ย ปัจจุบันหลายๆ พื้นที่ก็ยังนิยมจัดที่บ้านอยู่ ดูตามความต้องการของครอบครัวได้ค่ะ ทีมตกแต่งเก่งๆมีเยอะ เปลี่ยนบ้านธรรมดาๆ เป็นห้องจัดงานสวยๆได้ในข้ามคืน อย่ามองแค่ของที่เขาใช้นะคะ ว่าแค่เอาผ้ามาขึง เอาดอกไม้มาตั้ง ทุกอย่างมีต้นทุน ค่าของ ค่าขนส่ง ค่าเวลา ค่าแรงค่าฝีมือค่ะ ตอนทำเรือนลูกศรเคยให้พี่เขามาสอนจับจีบผ้า แต่พอได้ทำมันยากมาก จ้างค่ะ จบๆ 555 อ่ะ ถ้าสถานที่เช่าล่ะ หอประชุม ร้านอาหาร ที่เหล่านี้คือรับคนเยอะได้ มีแอร์ ที่จอดรถดี มีห้องน้ำเยอะ แต่ก็จะต้องเอาของอื่นๆ นำเข้าทั้งหมด เช่น ฉากตกแต่ง อุปกรณ์ในพิธี เครื่องเสียง อาหารเครื่องดื่ม ถ้าใช้ร้านอาหาร ก็ใช้อาหารเขา อย่างอื่นนำเข้าได้ค่ะ ส่วนWedding venue (สถานที่รับจัดงานแต่งงานโดยเฉพาะ) เรือนไทยเรือนฝรั่งมากมายที่ขึ้นทุกหัวเมือง อันนี้ง่ายเลย มีแพคเกจให้ ราคาเท่าไหร่ได้อะไรบ้าง ลูกค้าเตรียมอะไรบ้าง ลำดับพิธีการเขาทำให้หมด ข้อดีคือคุมงบได้ ข้อเสียคือบางอย่างเขาเป็นแพทเทิร์นแล้วจะปรับเปลี่ยนไม่ได้ค่ะ มาที่โรงแรมบ้าง เงื่อนไขแต่ละโรงแรมก็ต่างกันค่ะ การบริการ อาหาร ราคา 3-4-5 ดาว ว่ากันไป ซึ่งก็อยู่ที่จำนวนแขกกับขนาดห้องอีก บางที่รับได้เต็มที่แค่ 3-400ท่าน แต่ถ้าเราแขกเยอะก็จะต้องหาที่ใหญ่หน่อย หรือถ้าอยากไปที่สวยๆขึ้นเขา ออกทะเล จะมีเรื่องการเดินทาง ที่พักแขก ++ ไปอีก ทางนี้ไปมาทั่วประเทศ มีเรื่องให้ตื่นเต้นทุกที่เป็นเรื่องปกติค่า
-
จากหัวข้อข้างต้น ก็คือส่วนค่าใช้จ่ายหลักที่มีอิทธิพลสูงในการจัดงานแต่งงาน ยังไม่หมดเท่านี้นะคะ โพสหน้าจะมาพูดถึง ทีมงานต่างๆ ในการจัดงานแต่งงานว่า แพลนเนอร์/ออแกไนซ์/ตกแต่ง/ช่างภาพ พิธีกร นายพิธี รันคิว ทีมไหนคือใครทำงานยังไง ฝากกดไลค์ กดแชร์ไว้เดี๋ยวรีบเขียนให้ค่ะ
-
หากท่านใดมีส่วนไหนเพิ่มเติมฝากแชร์กันนะคะ ต่างคนต่างมุม เพื่อเป็นประโยชน์ต่อบ่าวสาวและคนทำงานค่ะ
-
ถ้าอยากให้ลูกศรดูแลงานให้ หรืออยากได้ที่ปรึกษายินดีช่วยแนะนำไม่คิดค่าใช้จ่าย นัดได้ เลี้ยงข้าวได้ค่ะ คิวว๊างว่าง
ลูกศร Lineid: mclooksorn
แอดมินคุณจัส Lineid: jasminnie555
-
ลูกศร Sornrawan wedding จดทะเบียนบริษัทเรียบร้อยตั้งแต่ปี 61 สมรสแล้วอยู่กินกันดีมีลูกชายหญิง มีคลาสสอนพิธีกรและการจัดงานแต่งงาน ทำงานในวงการงานแต่งงานมาแล้วกว่า 10 ปี มีลูกศิษย์ทั่วประเทศกว่า 100 ท่าน (อายุไม่เยอะหรอกค่ะ ทำตัวแก่เฉยๆ) เริ่มจากการเป็นพิธีกรคนเดียว จากนั้นทำทีมรันคิว เพราะอยากให้มีคนช่วยเรา เคยสร้างเรือนไทยเป็นสถานที่รับจัดงานแต่งงาน แต่เห็นว่าการมีเรือนของตัวเองนั้นเหนื่อยสุดๆ เลยกลับมารับเฉพาะพิธีกรและทีมรันคิวเหมือนเดิม ก็โชคดีมากที่ตัดสินใจถอยก่อนโควิดมาค่ะ เราทุนไม่หนา ลูกก็ยังเล็ก ต้องเซฟตังค์มาเลี้ยงลูกก่อนอะเนอะ แพลนเนอร์ ออแกไนเซอร์ เลเบอร์ รอเก้อ ชักเขย่อ ก็ทำมาหมดละ ฝากเนื้อฝากตัวฝากร้านฝากจ้างค้าาาา
